Context of ประเทศสวีเดน

สวีเดน (อังกฤษ: Sweden; สวีเดน: Sverige, ออกเสียง: [ˈsvæ̌rjɛ]) หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรสวีเดน (อังกฤษ: Kingdom of Sweden; สวีเดน: Konungariket Sverige) เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิกตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ในยุโรปเหนือ เขตแดนทางตะวันตกจรดประเทศนอร์เวย์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือจรดประเทศฟินแลนด์ และช่องแคบสแกเกอร์แรก ทางตะวันตกเฉียงใต้จรดช่องแคบคัตเทกัต และทางตะวันออกจรดทะเลบอลติก และอ่าวบอทเนีย มีกรุงสต็อกโฮล์มเป็นเมืองหลวง ประเทศสวีเดนมีประชากรที่เบาบาง เว้นแต่ในเขตเมืองใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประกอบด้วยป่าไม้ และภูเขาสูง สวีเดนมีประชากร 10.4 ล้านคน และความหนาแน่นของประชากร 25 คนต่อตารางกิโลเมตร โดยกว่า 87% ของประชากรอาศัยอยู่ในเขตเมืองซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 1.5% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดในภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ

กลุ่มชนเจอร์แมนิกเข้ามาตั้งรกรากในสวีเดนตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และดำรงชีพด้วยการทำประมง...อ่านต่อ

สวีเดน (อังกฤษ: Sweden; สวีเดน: Sverige, ออกเสียง: [ˈsvæ̌rjɛ]) หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรสวีเดน (อังกฤษ: Kingdom of Sweden; สวีเดน: Konungariket Sverige) เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิกตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ในยุโรปเหนือ เขตแดนทางตะวันตกจรดประเทศนอร์เวย์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือจรดประเทศฟินแลนด์ และช่องแคบสแกเกอร์แรก ทางตะวันตกเฉียงใต้จรดช่องแคบคัตเทกัต และทางตะวันออกจรดทะเลบอลติก และอ่าวบอทเนีย มีกรุงสต็อกโฮล์มเป็นเมืองหลวง ประเทศสวีเดนมีประชากรที่เบาบาง เว้นแต่ในเขตเมืองใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประกอบด้วยป่าไม้ และภูเขาสูง สวีเดนมีประชากร 10.4 ล้านคน และความหนาแน่นของประชากร 25 คนต่อตารางกิโลเมตร โดยกว่า 87% ของประชากรอาศัยอยู่ในเขตเมืองซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 1.5% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดในภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ

กลุ่มชนเจอร์แมนิกเข้ามาตั้งรกรากในสวีเดนตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และดำรงชีพด้วยการทำประมงก่อนจะรวมตัวกันเป็นชาวทะเลที่รู้จักกันในชื่อ ชาวนอร์ส รัฐอิสระของสวีเดนเกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 หลังจากการระบาดทั่วของกาฬโรคครั้งใหญ่ในกลางศตวรรษที่ 14 ซึ่งคร่าชีวิตชาวสแกนดิเนเวียไปกว่าหนึ่งในสาม การครอบงำของสันนิบาตฮันเซอในยุโรปเหนือได้คุกคามชาวสแกนดิเนเวียทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง หลังสิ้นสุดยุคไวกิง สวีเดนกลายเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพคัลมาร์ใน ค.ศ. 1397 ร่วมกับเดนมาร์กและนอร์เวย์ แต่ได้ออกจากสหภาพในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ในสงครามสามสิบปี และได้รบกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะรัสเซีย เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ซึ่งไม่ยอมรับการที่สวีเดนออกจากสหภาพ ในศตวรรษที่ 17 สวีเดนได้ขยายอาณาเขตด้วยสงครามและกลายเป็นหนึ่งชาติมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป ก่อนจะสูญเสียพื้นที่ราชอาณาจักรรวมถึงฟินแลนด์ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสวีเดน และนับตั้งแต่เข้าร่วมสงครามสหราชอาณาจักรสวีเดนและนอร์เวย์ใน ค.ศ. 1814 สวีเดนอยู่ในภาวะสันติและปราศจากสงครามระหว่างประเทศมาตลอด โดยมีนโยบายต่างประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และเป็นกลางในสงครามรวมถึงในสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเย็น ใน ค.ศ. 2014 สวีเดนได้เฉลิมฉลองสันติภาพประเทศครบ 200 ปี ทำลายสถิติของสวิตเซอร์แลนด์

สวีเดนเป็นผู้ส่งออกเหล็ก ทองแดง และไม้ชั้นนำของยุโรปตั้งแต่สมัยยุคกลาง อย่างไรก็ดี การขนส่งและการคมนาคมที่ดีขึ้น ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรธรรมชาติจากส่วนต่าง ๆ ของประเทศได้มากขึ้น โดยเฉพาะไม้ และแร่เหล็ก การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและการจัดการศึกษาทั่วไป ช่วยให้เกิดอุตสาหกรรมขึ้นอย่างรวดเร็ว และในทศวรรษ 1890 ประเทศได้เริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นสูง ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้เกิดระบบสวัสดิการของรัฐบาลขึ้น ปัจจุบัน สวีเดนมีความโน้มเอียงในทางเสรีนิยม และความเท่าเทียมกันในสังคม

สวีเดนมีรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยอำนาจนิติบัญญัติตกเป็นของสมาชิกรัฐสภาซึ่งมีสมาชิก 349 คน สวีเดนเป็นรัฐรวมซึ่งแบ่งออกเป็น 21 เทศมณฑล และ 290 เทศบาล สวีเดนถือเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และรักษาระบบสวัสดิการสังคมตามตัวแบบนอร์ดิกที่มีระบบสาธารณสุขและการศึกษาที่มีคุณภาพ มีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับที่ 11 ของโลก และอยู่ในอันดับที่สูงในด้านคุณภาพชีวิต สุขภาพ การศึกษา การคุ้มครองเสรีภาพของพลเมือง ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ความเท่าเทียมกันของรายได้ ความเสมอภาคทางเพศ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนามนุษย์ สวีเดนเข้าร่วมสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1995 แต่ได้ปฏิเสธการเป็นสมาชิกยูโรโซนภายหลังการลงประชามติ และยังเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ สภานอร์ดิก สภายุโรป องค์การการค้าโลก และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา สวีเดนได้แสดงเจตนารมณ์ในการเข้าเป็นสมาชิกเนโทใน ค.ศ. 2022

More about ประเทศสวีเดน

Basic information
Population, Area & Driving side
  • Population 10551707
  • Area 447425
  • Driving side right
ประวัติ
  • ดูบทความหลักที่: ประวัติศาสตร์สวีเดน

    สวีเดนมีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เริ่มจากค่ายล่าสัตว์ก่อนประวัติศาสตร์ทางตอนใต้สุดของประเทศ ในศตวรรษที่ 7 และ 8 สวีเดนเป็นที่รู้จักในด้านการค้า แต่ในศตวรรษที่ 9 ชาวไวกิงได้บุกเข้าไปในภูมิภาคนี้และส่วนใหญ่ในยุโรป ในปี 1397 Queen Margaret แห่งเดนมาร์กได้สร้างสหภาพคัลมาร์ซึ่งรวมถึงสวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และเดนมาร์ก[1]

    เมื่อถึงศตวรรษที่ 15 ความตึงเครียดทางวัฒนธรรมทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสวีเดนและเดนมาร์กและในปี 1523 สหภาพคัลมาร์ก็สลายตัวทำให้สวีเดนเป็นอิสระ[2]

    ในศตวรรษที่ 17 สวีเดนและฟินแลนด์ (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสวีเดน) ได้ต่อสู้และชนะสงครามหลายครั้งกับเดนมาร์กรัสเซียและโปแลนด์ซึ่งทำให้ทั้งสองประเทศกลายเป็นที่รู้จักในฐานะมหาอำนาจในยุโรป ด้วยเหตุนี้ในปี 1658 สวีเดนจึงควบคุมพื้นที่หลายแห่งซึ่งบางแห่งรวมถึงหลายจังหวัดในเดนมาร์กและเมืองชายฝั่งที่มีอิทธิพล ในปี 1700 รัสเซียแซกโซนี - โปแลนด์และเดนมาร์ก - นอร์เวย์โจมตีสวีเดนซึ่งสิ้นสุดเวลาในฐานะประเทศที่มีอำนาจ ในช่วงสงครามนโปเลียนสวีเดนถูกบังคับให้ยกฟินแลนด์ให้รัสเซียในปี 1809 อย่างไรก็ตามในปี 1813 สวีเดนได้ต่อสู้กับนโปเลียนและหลังจากนั้นไม่นานสภาคองเกรสแห่งเวียนนาได้สร้างการรวมกันระหว่างสวีเดนและนอร์เวย์ในระบอบกษัตริย์แบบคู่ (ภายหลังสหภาพนี้ได้ถูกยุบอย่างสงบใน ค.ศ. 1905)[3]

    ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี 1800 สวีเดนเริ่มเปลี่ยนเศรษฐกิจไปสู่เกษตรกรรมส่วนตัวและส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับความเดือดร้อน ระหว่าง ค.ศ. 1850 ถึง 1890 ชาวสวีเดนประมาณล้านคนย้ายไปอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 สวีเดนยังคงเป็นกลางและได้รับประโยชน์จากการผลิตผลิตภัณฑ์เช่นเหล็กลูกปืนและไม้ขีดไฟ หลังสงครามเศรษฐกิจดีขึ้นและประเทศก็เริ่มพัฒนานโยบายสวัสดิการสังคมอย่างที่มีอยู่ในปัจจุบัน สวีเดนเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 1995[4]

    ...อ่านต่อ
    ดูบทความหลักที่: ประวัติศาสตร์สวีเดน

    สวีเดนมีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เริ่มจากค่ายล่าสัตว์ก่อนประวัติศาสตร์ทางตอนใต้สุดของประเทศ ในศตวรรษที่ 7 และ 8 สวีเดนเป็นที่รู้จักในด้านการค้า แต่ในศตวรรษที่ 9 ชาวไวกิงได้บุกเข้าไปในภูมิภาคนี้และส่วนใหญ่ในยุโรป ในปี 1397 Queen Margaret แห่งเดนมาร์กได้สร้างสหภาพคัลมาร์ซึ่งรวมถึงสวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และเดนมาร์ก[1]

    เมื่อถึงศตวรรษที่ 15 ความตึงเครียดทางวัฒนธรรมทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสวีเดนและเดนมาร์กและในปี 1523 สหภาพคัลมาร์ก็สลายตัวทำให้สวีเดนเป็นอิสระ[2]

    ในศตวรรษที่ 17 สวีเดนและฟินแลนด์ (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสวีเดน) ได้ต่อสู้และชนะสงครามหลายครั้งกับเดนมาร์กรัสเซียและโปแลนด์ซึ่งทำให้ทั้งสองประเทศกลายเป็นที่รู้จักในฐานะมหาอำนาจในยุโรป ด้วยเหตุนี้ในปี 1658 สวีเดนจึงควบคุมพื้นที่หลายแห่งซึ่งบางแห่งรวมถึงหลายจังหวัดในเดนมาร์กและเมืองชายฝั่งที่มีอิทธิพล ในปี 1700 รัสเซียแซกโซนี - โปแลนด์และเดนมาร์ก - นอร์เวย์โจมตีสวีเดนซึ่งสิ้นสุดเวลาในฐานะประเทศที่มีอำนาจ ในช่วงสงครามนโปเลียนสวีเดนถูกบังคับให้ยกฟินแลนด์ให้รัสเซียในปี 1809 อย่างไรก็ตามในปี 1813 สวีเดนได้ต่อสู้กับนโปเลียนและหลังจากนั้นไม่นานสภาคองเกรสแห่งเวียนนาได้สร้างการรวมกันระหว่างสวีเดนและนอร์เวย์ในระบอบกษัตริย์แบบคู่ (ภายหลังสหภาพนี้ได้ถูกยุบอย่างสงบใน ค.ศ. 1905)[3]

    ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี 1800 สวีเดนเริ่มเปลี่ยนเศรษฐกิจไปสู่เกษตรกรรมส่วนตัวและส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับความเดือดร้อน ระหว่าง ค.ศ. 1850 ถึง 1890 ชาวสวีเดนประมาณล้านคนย้ายไปอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 สวีเดนยังคงเป็นกลางและได้รับประโยชน์จากการผลิตผลิตภัณฑ์เช่นเหล็กลูกปืนและไม้ขีดไฟ หลังสงครามเศรษฐกิจดีขึ้นและประเทศก็เริ่มพัฒนานโยบายสวัสดิการสังคมอย่างที่มีอยู่ในปัจจุบัน สวีเดนเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 1995[4]

    "สวีเดน: ประวัติศาสตร์และข้อเท็จจริงทางภูมิศาสตร์". สวีเดน: ประวัติศาสตร์และข้อเท็จจริงทางภูมิศาสตร์. 2019-11-08. "History of Sweden – more than Vikings | Official site of Sweden". sweden.se (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2015-12-03. "A SHORT HISTORY OF SWEDEN". Local Histories (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2021-03-14. "Sweden | HISTORY Channel". The HISTORY Channel (ภาษาอังกฤษ).
    Read less

Phrasebook

สวัสดี
Hallå
โลก
Värld
สวัสดีชาวโลก
Hej världen
ขอขอบคุณ
Tack
ลาก่อน
Adjö
ใช่
Ja
ไม่
Nej
คุณเป็นอย่างไรบ้าง
Hur mår du?
สบายดีขอบคุณ
Bra tack
ราคาเท่าไหร่?
vad kostar det?
ศูนย์
Noll
หนึ่ง
Ett

Where can you sleep near ประเทศสวีเดน ?

Booking.com
489.299 visits in total, 9.196 Points of interest, 404 Destinations, 126 visits today.