Österreich-Ungarn ( จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี )

จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี รู้จักกันในนาม ออสเตรีย-ฮังการี (อังกฤษ: Austria-Hungary) เป็นรัฐราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และเป็นมหาอำนาจในยุโรปกลาง ที่ดำรงอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1867 ถึง ค.ศ. 1918 จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีได้รับการสถาปนาขึ้นจากการประนีประนอมระหว่างออสเตรียและฮังการี ใน ค.ศ. 1867 และถูกยุบหลังจากที่จักรวรรดิออสเตรีย–ฮังการีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีถูกปกครองด้วยราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค และถือเป็นระยะสุดท้ายในวิวัฒนาการทางรัฐธรรมนูญของราชาธิปไตยฮาพส์บวร์ค จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีเป็นจักรวรรดิพหุชนชาติและเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของทวีปยุโรปในเวลานั้น ในด้านภูมิศาสตร์ จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากจักรวรรดิรัสเซีย โดยมีพื้นที่ 621,538 ตารางกิโลเมตร (239,977 ตารางไมล์) และเป็นจักรวรรดิที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสาม (รองจากจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิเยอรมัน) จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีได้สร้างอุตสาหกรรมด้านการผลิตเครื่องจักรที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สี่ รองจากสหรัฐ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังเป็นจักรวรรดิที่ผลิตและส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในภาคอุตสาหกรรม และเครื่องผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสาม รองจากสหรัฐและจักรวรรดิเยอรมัน

แกนกลางที่แท้จริงอองเตรีย–ฮังการี คือระบอบราชาธิปไตยคู่ซึ่งเป็นสหภาพที่มีองค์การร่วมกันระหว่างซิสไลทาเนีย ซึ่งมีพื้นที่อยู่ที่ฟากตะวันตกและฟากเหนือของอดีตจักรวรรดิออสเตรีย และราชอาณาจักรฮังการี ภายหลังการปฏิรูป ค.ศ. 1867 รัฐออสเตรีย และฮังการีก็มีอำนาจอย่างเท่าเทียมกัน รัฐทั้งสองดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศ ด้านการกลาโหม และด้านการคลังอย่างร่วมกัน ในขณะที่คณะรัฐมนตรีของรัฐต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดในจักรวรรดิก็ได้รับการแบ่งแยกการบริหารซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปภายในแต่ละรัฐ โดยที่องค์ประกอบที่สามของสหภาพคือราชอาณาจักรโครเอเชีย-สลาโวเนีย ซึ่งเป็นภูมิภาคปกครองตนเองที่อยู่ภายใต้ราชบัลลังก์ฮังการี ซึ่งได้รับการเจรจาโดยความตกลงโครเอเชีย–ฮังการี ใน ค.ศ. 1868 ภายหลัง ค.ศ. 1878 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองร่วมทั้งด้านการพลเรือนและด้านการทหารของออสเตรียและฮังการี จนกระทั่งบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาถูกผนวกอย่างสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1908 ซึ่งทำให้วิกฤตการณ์บอสเนียเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่พอใจของมหาอำนาจอื่น ๆ

จักรวรรดินี้ได้สืบทอดมาจากจักรวรรดิออสเตรีย (ค.ศ. 1804-ค.ศ. 1867) โดยมีอาณาเขตพื้นที่เดียวกัน โดยมีต้นกำเนิดจากการเจรจาต่อรองระหว่างออสเตรียและฮังการี เมื่อปีพ.ศ. 2410 ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ถูกราชวงศ์ฮาพส์บวร์คปกครองมาช้านาน โดยเจรจาให้มีการรวมอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียว โดยจักรวรรดินี้เป็นอาณาจักรที่มีหลากหลายเชื้อชาติและมีความเจริญรุ่งเรืองขีดสุด ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม

อ่านต่อ

จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี รู้จักกันในนาม ออสเตรีย-ฮังการี (อังกฤษ: Austria-Hungary) เป็นรัฐราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และเป็นมหาอำนาจในยุโรปกลาง ที่ดำรงอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1867 ถึง ค.ศ. 1918 จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีได้รับการสถาปนาขึ้นจากการประนีประนอมระหว่างออสเตรียและฮังการี ใน ค.ศ. 1867 และถูกยุบหลังจากที่จักรวรรดิออสเตรีย–ฮังการีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีถูกปกครองด้วยราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค และถือเป็นระยะสุดท้ายในวิวัฒนาการทางรัฐธรรมนูญของราชาธิปไตยฮาพส์บวร์ค จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีเป็นจักรวรรดิพหุชนชาติและเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของทวีปยุโรปในเวลานั้น ในด้านภูมิศาสตร์ จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากจักรวรรดิรัสเซีย โดยมีพื้นที่ 621,538 ตารางกิโลเมตร (239,977 ตารางไมล์) และเป็นจักรวรรดิที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสาม (รองจากจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิเยอรมัน) จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีได้สร้างอุตสาหกรรมด้านการผลิตเครื่องจักรที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สี่ รองจากสหรัฐ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังเป็นจักรวรรดิที่ผลิตและส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในภาคอุตสาหกรรม และเครื่องผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสาม รองจากสหรัฐและจักรวรรดิเยอรมัน

แกนกลางที่แท้จริงอองเตรีย–ฮังการี คือระบอบราชาธิปไตยคู่ซึ่งเป็นสหภาพที่มีองค์การร่วมกันระหว่างซิสไลทาเนีย ซึ่งมีพื้นที่อยู่ที่ฟากตะวันตกและฟากเหนือของอดีตจักรวรรดิออสเตรีย และราชอาณาจักรฮังการี ภายหลังการปฏิรูป ค.ศ. 1867 รัฐออสเตรีย และฮังการีก็มีอำนาจอย่างเท่าเทียมกัน รัฐทั้งสองดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศ ด้านการกลาโหม และด้านการคลังอย่างร่วมกัน ในขณะที่คณะรัฐมนตรีของรัฐต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดในจักรวรรดิก็ได้รับการแบ่งแยกการบริหารซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปภายในแต่ละรัฐ โดยที่องค์ประกอบที่สามของสหภาพคือราชอาณาจักรโครเอเชีย-สลาโวเนีย ซึ่งเป็นภูมิภาคปกครองตนเองที่อยู่ภายใต้ราชบัลลังก์ฮังการี ซึ่งได้รับการเจรจาโดยความตกลงโครเอเชีย–ฮังการี ใน ค.ศ. 1868 ภายหลัง ค.ศ. 1878 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองร่วมทั้งด้านการพลเรือนและด้านการทหารของออสเตรียและฮังการี จนกระทั่งบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาถูกผนวกอย่างสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1908 ซึ่งทำให้วิกฤตการณ์บอสเนียเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่พอใจของมหาอำนาจอื่น ๆ

จักรวรรดินี้ได้สืบทอดมาจากจักรวรรดิออสเตรีย (ค.ศ. 1804-ค.ศ. 1867) โดยมีอาณาเขตพื้นที่เดียวกัน โดยมีต้นกำเนิดจากการเจรจาต่อรองระหว่างออสเตรียและฮังการี เมื่อปีพ.ศ. 2410 ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ถูกราชวงศ์ฮาพส์บวร์คปกครองมาช้านาน โดยเจรจาให้มีการรวมอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียว โดยจักรวรรดินี้เป็นอาณาจักรที่มีหลากหลายเชื้อชาติและมีความเจริญรุ่งเรืองขีดสุด ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คนั้นได้ปกครองประเทศในฐานะจักรพรรดิออสเตรีย และราชอาณาจักรฮังการีในฐานะพระมหากษัตริย์ฮังการี ผู้ทรงเปรียบเสมือนเบื้องขวาแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า นอกจากนั้นยังได้ปกครองทั่วทั้งทางตะวันตกและทางเหนือ รวมทั้งครึ่งหนึ่งของทวีปยุโรปเลยทีเดียว โดยทุกประเทศที่อยู่ภายใต้จักรวรรดินี้ มีรัฐบาลเป็นของตนเอง มิได้มีรัฐบาลและศูนย์กลางทางการเมืองหรือรัฐบาลที่ประเทศเดียว เมืองหลวงของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีนั้น มีอยู่ 2 เมืองด้วยกันคือ กรุงเวียนนา ที่ประเทศออสเตรีย และกรุงบูดาเปสต์ที่ประเทศฮังการี จักรวรรดินี้มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากจักรวรรดิรัสเซีย และเป็นอาณาจักรที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 3 รองจากจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิเยอรมัน ซึ่งปัจจุบันนี้ พื้นที่ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดินั้นมีประชากรรวมทั้งหมดถึง 73 ล้านคน