มัสยิดยูฆารือเกิฟแฮร์อาฆา (อาเซอร์ไบจาน: Yuxarı Gövhər ağa məscidi; Yukhari Govhar Agha Mosque) เป็นมัสยิดในชูชา ประเทศอาเซอร์ไบจาน มัสยิดตั้งอยู่ที่จัตุรัสถนนยูซิฟ แวซีร์ แชแมนแซมินลี ซึ่งอยู่กลางเมือง และเป็นหนึ่งในหมู่อาคารในพื้นที่ที่ออกแบบโดยสถาปนิกคนเดียวกัน ชื่อของมัสยิดแปลว่า "มัสยิดเกิฟแฮร์อาฆาบน" อันสื่อถึงที่ตั้งที่อยู่ตอนบนของเมืองชูชา เพื่อไม่ให้สับสนกับมัสยิดอาชาฆือเกิฟแฮร์อาฆาซึ่งตั้งอยู่ตอนล่างของเมือง ทั้งสองมัสยิดถือเป็นมัสยิดสำคัญของเมืองชูชา
ในสมัยโซเวียต มัสยิดถูกปิดและใช้งานเป็นพิพิธภัณฑ์ และเปิดใช้งานใหม่เป็นมัสยิดอีกครั้งในปี 1988 ภายหลังการยึดเมืองชูชาของกองกำลังคาราบัค-อาร์มีเนียในปี 1992 มัสยิดไม่ได้ถูกใช้งานอีก หลังการบูรณะเล็กน้อยโดยซ่อมแซมหลังคาของมัสยิดในช่วงปี 2008–2009 รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัคมีคำสั่งให้บูรณะซ่อมแซมโดยจ้างช่างชาวอิหร่านเข้ามาช่วยในงานบูรณะ ในขณะที่ทางการอาเซอร์ไบจานแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อโครงการบูรณะมัสยิดนี้ รองผู้ว่าการคณะกรรมาธิการแห่งรัฐว่าด้วยกิจการองค์การศาสนา (State ...อ่านต่อ
มัสยิดยูฆารือเกิฟแฮร์อาฆา (อาเซอร์ไบจาน: Yuxarı Gövhər ağa məscidi; Yukhari Govhar Agha Mosque) เป็นมัสยิดในชูชา ประเทศอาเซอร์ไบจาน มัสยิดตั้งอยู่ที่จัตุรัสถนนยูซิฟ แวซีร์ แชแมนแซมินลี ซึ่งอยู่กลางเมือง และเป็นหนึ่งในหมู่อาคารในพื้นที่ที่ออกแบบโดยสถาปนิกคนเดียวกัน ชื่อของมัสยิดแปลว่า "มัสยิดเกิฟแฮร์อาฆาบน" อันสื่อถึงที่ตั้งที่อยู่ตอนบนของเมืองชูชา เพื่อไม่ให้สับสนกับมัสยิดอาชาฆือเกิฟแฮร์อาฆาซึ่งตั้งอยู่ตอนล่างของเมือง ทั้งสองมัสยิดถือเป็นมัสยิดสำคัญของเมืองชูชา
ในสมัยโซเวียต มัสยิดถูกปิดและใช้งานเป็นพิพิธภัณฑ์ และเปิดใช้งานใหม่เป็นมัสยิดอีกครั้งในปี 1988 ภายหลังการยึดเมืองชูชาของกองกำลังคาราบัค-อาร์มีเนียในปี 1992 มัสยิดไม่ได้ถูกใช้งานอีก หลังการบูรณะเล็กน้อยโดยซ่อมแซมหลังคาของมัสยิดในช่วงปี 2008–2009 รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัคมีคำสั่งให้บูรณะซ่อมแซมโดยจ้างช่างชาวอิหร่านเข้ามาช่วยในงานบูรณะ ในขณะที่ทางการอาเซอร์ไบจานแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อโครงการบูรณะมัสยิดนี้ รองผู้ว่าการคณะกรรมาธิการแห่งรัฐว่าด้วยกิจการองค์การศาสนา (State Committee for Work with Religious Organizations) ระบุว่า "จุดมุ่งหมายของชาวอาร์มีเนียที่จะบูรณะมัสยิดเก่าแก่ในชูชานี้ เป็นความพยายามกลบเกลื่อนร่องรอยความเสียหายที่พวกเขาทำต่ออนุสรณ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมของอาเซอร์ไบจานในดินแดนที่พวกเขายึดครองไป"
หลังโครงการบูรณะหลายปี มัสยิดรวมถึงหมู่อาคารโดยรอบที่เป็นผลงานของสถาปนิกคนเดียวกันได้เปิดต่อสาธารณชนอีกครั้งเพื่อการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ตุลาคม 2019 มัสยิดได้รับการใช้งานในฐานะศูนย์วัฒนธรรมอาร์มีเนีย-อิหร่าน และที่สำคัญคือไม่ปรากฏการระบุความเกี่ยวข้องของมัสยิดกับอาเซอร์ไบจาน แต่กลับนำเสนอมัสยิดนี้ในฐานะมัสยิดของอิหร่านแทน มีการจัดละหมาดวันศุกร์ขึ้นครั้งแรกในมัสยิดเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2020 โดยทหารอาเซอร์ไบจาน เป็นครั้งแรกที่มีการละหมาดวันศุกร์ในมัสยิดนี้ในรอบ 28 ปี
แสดงความเห็น