Portugal
ประเทศโปรตุเกสContext of ประเทศโปรตุเกส
โปรตุเกส (โปรตุเกส: Portugal [puɾtuˈɣaɫ] ปุรตุกาล) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐโปรตุเกส (โปรตุเกส: República Portuguesa) เป็นรัฐเอกราชซึ่งมีแผ่นดินใหญ่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีพรมแดนติดกับประเทศสเปนทางทิศเหนือและทิศตะวันออก และติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันตกและทิศใต้ อาณาเขตของโปรตุเกสยังรวมถึงหมู่เกาะอะโซร์ส และมาเดราบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก โปรตุเกสมีสภาพเป็นรัฐเดี่ยวซึ่งปกครองด้วยระบบกึ่งประธานาธิบดี มีเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือลิสบอน
โปรตุเกสเป็นรัฐชาติที่เก่าแก่ที่สุดบนคาบสมุทรไอบีเรีย และเป็นหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป อาณาเขตทั้งหมดเริ่มมีมนุษย์เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในเวลาต่อมาได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเคลต์, ฟินิเชีย และพ่อค้าชาวกรีกโบราณ ก่อนจะถูกปกครองโดยชาวโรมัน ตามด้วยการรุกรานของชาววิซิกอทซึ่งเป็นกลุ่มชนเจอร์แมนิก และหลังจากคาบสมุทรไอบีเรียถูกรุกรานโดยชาวมัวร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอัลอันดะลุสก ซึ...อ่านต่อ
โปรตุเกส (โปรตุเกส: Portugal [puɾtuˈɣaɫ] ปุรตุกาล) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐโปรตุเกส (โปรตุเกส: República Portuguesa) เป็นรัฐเอกราชซึ่งมีแผ่นดินใหญ่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีพรมแดนติดกับประเทศสเปนทางทิศเหนือและทิศตะวันออก และติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันตกและทิศใต้ อาณาเขตของโปรตุเกสยังรวมถึงหมู่เกาะอะโซร์ส และมาเดราบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก โปรตุเกสมีสภาพเป็นรัฐเดี่ยวซึ่งปกครองด้วยระบบกึ่งประธานาธิบดี มีเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือลิสบอน
โปรตุเกสเป็นรัฐชาติที่เก่าแก่ที่สุดบนคาบสมุทรไอบีเรีย และเป็นหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป อาณาเขตทั้งหมดเริ่มมีมนุษย์เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในเวลาต่อมาได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเคลต์, ฟินิเชีย และพ่อค้าชาวกรีกโบราณ ก่อนจะถูกปกครองโดยชาวโรมัน ตามด้วยการรุกรานของชาววิซิกอทซึ่งเป็นกลุ่มชนเจอร์แมนิก และหลังจากคาบสมุทรไอบีเรียถูกรุกรานโดยชาวมัวร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอัลอันดะลุสก ซึ่งปกครองโดยอาหรับและชาวมุสลิมในแอฟริกาเหนือ โปรตุเกสในฐานะประเทศได้ก่อตั้งขึ้นในสมัยเรกองกิสตา เคาน์ตีแห่งโปรตุเกสซึ่งหมายถึงสองมณฑลในยุคกลางที่ต่อเนื่องกันในภูมิภาครอบ ๆ บรากาและโปร์ตูได้ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 868 และมีชื่อเสียงจากเหตุการณ์สมรภูมิเซามาเมเดใน ค.ศ. 1128 ราชอาณาจักรโปรตุเกสได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1139 และปลดแอกจากราชอาณาจักรเลออนใน ค.ศ. 1143
ในศตวรรษที่ 15 และ 16 จักรวรรดิโปรตุเกส ได้กลายเป็นมหาอำนาจและเป็นศูนย์กลางทางการค้า การเมือง และการทหารของโลก ในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นยุคแห่งการสำรวจ นักสำรวจชาวโปรตุเกสได้บุกเบิกการสำรวจทางทะเลด้วยการค้นพบบราซิลสมัยอาณานิคม ใน ค.ศ. 1500 โปรตุเกสยังได้ผูกขาดการค้าเครื่องเทศในช่วงเวลานี้ และส่งผลต่อวัฒนธรรมบางส่วนของชาวเอเชียมาจนถึงปัจจุบัน สนธิสัญญาตอร์เดซิยัสแบ่งเขตอิทธิพลในดินแดนที่ค้นพบใหม่นอกยุโรประหว่างจักรวรรดิโปรตุเกสกับราชบัลลังก์กัสติยา และยังขยายอิทธิพลทางการทหารและวัฒนธรรมไปสู่ทวีปเอเชีย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ต่าง ๆ ในศตวรรษที่ 18 อาทิ แผ่นดินไหวในลิสบอน ค.ศ. 1755 การยึดครองของประเทศในช่วงสงครามนโปเลียน และเอกราชของบราซิล ส่งผลให้ความยิ่งใหญ่ของโปรตุเกสเสื่อมถอยลง ซึ่งตามมาด้วยสงครามเสรีนิยม ระหว่างฝ่ายเสรีนิยมกับผู้นิยมระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ในการสืบราชสันตติวงศ์ซึ่งกินเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1828 ถึง 1834
การปฏิวัติใน ค.ศ. 1910 ได้โค่นล้มระบอบราชาธิปไตยที่ยาวนานมาหลายศตวรรษ ก่อนที่สาธารณรัฐที่ 1 ซึ่งเป็นประชาธิปไตยจะก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ และถูกแทนที่ด้วย อึชตาดูโนวู หรือสาธารณรัฐที่ 2 ซึ่งเป็นระบอบเผด็จการ กระนั้น ระบอบประชาธิปไตยก็ได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งภายหลังการปฏิวัติคาร์เนชัน ใน ค.ศ. 1974 และเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามอาณานิคมโปรตุเกส ซึ่งตามมาด้วยการได้รับเอกราชของดินแดนโพ้นทะเลเกือบทั้งหมด การส่งมอบมาเก๊าให้แก่จีน ใน ค.ศ. 1999 ถือเป็นจุดสิ้นสุดของอาณาจักรอาณานิคมที่มีอายุยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
โปรตุเกสได้ทิ้งอิทธิพลทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และภาษาไปทั่วโลก โดยมีผู้พูดภาษาโปรตุเกสประมาณ 250 ล้านคน โปรตุเกสเป็นประเทศพัฒนาแล้ว พร้อมด้วยระบบเศรฐกิจที่มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากร และได้รับการจัดอันดับที่สูงในด้านดัชนีสันติภาพโลก ประชาธิปไตย เสรีภาพสื่อ ดัชนีรัฐบอบบาง และทักษะทางภาษาอังกฤษ โปรตุเกสเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป พื้นที่เชงเกน สภายุโรป และเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งของเนโท ยูโรโซน องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และประชาคมผู้ใช้ภาษาโปรตุเกสโลก
More about ประเทศโปรตุเกส
- Currency ยูโร
- Native name Portugal
- Calling code +351
- Internet domain .pt
- Mains voltage 230V/50Hz
- Democracy index 7.9
- Population 8857716
- Area 92225
- Driving side right
- ดูบทความหลักที่: ประวัติศาสตร์โปรตุเกส
โปรตุเกสคือดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมแตกต่างกันไปอย่างต่อเนื่องในช่วง 3,500 ปีที่ผ่านมา ทั้งอารยธรรมของชาวไอบีเรีย (Iberians) ชาวเคลต์ (Celts) ชาวฟีนีเชีย (Phoenicians) และชาวคาร์เทจ (Carthaginians) ชาวกรีก (Greeks) ชาวโรมัน (Romans) ชาวเผ่าเยอรมัน (Germanic tribespeople) รวมถึงอารยธรรมของชาวอาหรับ (Arabians) ล้วนเคยเหยียบย่ำบนแผ่นดินโปรตุเกสมาแล้วทั้งสิ้น ในชื่อ "โปรตุเกส" นั้นก็บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์สมัยโบราณส่วนใหญ่ของประเทศนี้ไปแล้ว เนื่องจากรากศัพท์ของคำว่าโปรตุเกสนั้น คือชื่อที่ชาวโรมันตั้งให้ชื่อว่า "Portus Cale" อาจเป็นไปได้ว่าคำนี้จะมาจากการสมาสคำระหว่างภาษากรีกและภาษาละตินซึ่งมีความหมายว่า "ท่าเรือที่สวยงาม" ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 และ คริสต์ศตวรรษที่ 16 นั้นโปรตุเกสคือประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม โดยจักรวรรดิโปรตุเกสนั้นแผ่ขยายอำนาจของตนไปทั่วโลก เมื่อหลังจากที่ประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ พัฒนาขึ้นในด้านการล่าอาณานิคมแล้ว โปรตุเกสจึงเสื่อมถอยลงไป
ประเทศโปรตุเกสในปัจจุบันนี้มีรากฐานมาจากการปฏิวัติเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ทำการล้มล้างระบอบการปกครองแบบเผด็จการ (หรือการบริหารแบบพรรคเดียว) ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) จนถูกโค่นล้มในปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) จากนั้นในภายหลังจึงเข้ามาเป็นสมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจยุโรป หรือ European Economic Community (สหภาพยุโรปในปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) ประเทศโปรตุเกสพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของตนขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมาในคริสต์ศตวรรษที่ 20
...อ่านต่อRead lessดูบทความหลักที่: ประวัติศาสตร์โปรตุเกสโปรตุเกสคือดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมแตกต่างกันไปอย่างต่อเนื่องในช่วง 3,500 ปีที่ผ่านมา ทั้งอารยธรรมของชาวไอบีเรีย (Iberians) ชาวเคลต์ (Celts) ชาวฟีนีเชีย (Phoenicians) และชาวคาร์เทจ (Carthaginians) ชาวกรีก (Greeks) ชาวโรมัน (Romans) ชาวเผ่าเยอรมัน (Germanic tribespeople) รวมถึงอารยธรรมของชาวอาหรับ (Arabians) ล้วนเคยเหยียบย่ำบนแผ่นดินโปรตุเกสมาแล้วทั้งสิ้น ในชื่อ "โปรตุเกส" นั้นก็บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์สมัยโบราณส่วนใหญ่ของประเทศนี้ไปแล้ว เนื่องจากรากศัพท์ของคำว่าโปรตุเกสนั้น คือชื่อที่ชาวโรมันตั้งให้ชื่อว่า "Portus Cale" อาจเป็นไปได้ว่าคำนี้จะมาจากการสมาสคำระหว่างภาษากรีกและภาษาละตินซึ่งมีความหมายว่า "ท่าเรือที่สวยงาม" ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 และ คริสต์ศตวรรษที่ 16 นั้นโปรตุเกสคือประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม โดยจักรวรรดิโปรตุเกสนั้นแผ่ขยายอำนาจของตนไปทั่วโลก เมื่อหลังจากที่ประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ พัฒนาขึ้นในด้านการล่าอาณานิคมแล้ว โปรตุเกสจึงเสื่อมถอยลงไป
ประเทศโปรตุเกสในปัจจุบันนี้มีรากฐานมาจากการปฏิวัติเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ทำการล้มล้างระบอบการปกครองแบบเผด็จการ (หรือการบริหารแบบพรรคเดียว) ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) จนถูกโค่นล้มในปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) จากนั้นในภายหลังจึงเข้ามาเป็นสมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจยุโรป หรือ European Economic Community (สหภาพยุโรปในปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) ประเทศโปรตุเกสพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของตนขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมาในคริสต์ศตวรรษที่ 20
ยุคลูซิทาเนียในช่วงต้น ๆ หนึ่งสหัสวรรษก่อนคริสตกาล ชาวเซลต์ได้ทำการรุกรานโปรตุเกสจากภูมิภาคยุโรปตอนกลางอยู่หลายระลอกด้วยกัน รวมถึงแต่งงานข้ามเผ่ากับชาวไอบีเรียซึ่งเป็นประชากรท้องถิ่น ก่อให้เกิดชาวเซลต์ลูกครึ่งไอบีเรียออกมา นักสำรวจชาวกรีกในยุคนั้นตั้งชื่อภูมิภาคนี้ว่า "ออร์ฟิอุสซา" (Orphiussa) (มาจากภาษากรีก หมายความว่า "แดนแห่งพญางู" เนื่องจากชาวพื้นเมืองที่นั่นนับถืองูพิษ ต่อมาพ.ศ. 305 (ก่อนคริสตกาล 238 ปี) ชาวคาร์เทจเข้ามาตั้งถิ่นฐานตามแนวชายฝั่งบนคาบสมุทรไอบีเรีย ในช่วงนี้มีเผ่าย่อย ๆ หลายเผ่าอาศัยอยู่กระจัดกระจายกันไป ส่วนใหญ่มักจะเป็นชาวลูซิทาเนีย (Lusitanians) ที่อาศัยอยู่ระหว่างแม่น้ำดูโร (Douro) และแม่น้ำเทโฮ (Tegus หรือ Tejo) และชาวแคลเลไค (Callaeci) ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำดูโรรวมอยู่กับเผ่าอื่น ๆ รวมถึงชาวโคนิไอ (Conii) ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนใต้ของโปรตุเกสมาเป็นเวลานาน และชาวเซลติไค (Celtici) ชนรุ่นหลังของชาวเซลต์ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน พวกเขาอาศัยอยู่ที่อเลนเทโฮ (Alentejo)
ก่อนคริสตกาล 219 ปี ทหารชาวโรมันชุดแรกเข้ามาทำการรุกรานคาบสมุทรไอบีเรีย และขับไล่ชาวคาร์เทจออกไประหว่างสงครามพิวนิค (Punic Wars) การพิชิตโปรตุเกสของชาวโรมันเริ่มต้นขึ้นทางตอนใต้ขึ้นมา, ในตอนใต้นี้เอง ที่ทำให้พวกเขาพบกับชาวพื้นเมืองที่เป็นมิตรเผ่าแรกคือเผ่าโคนิไอ หลายทศวรรษต่อมา ชาวโรมันก็ค่อย ๆ ขยายวงแหวนแห่งการปกครองออกไป แต่ในที่สุด เมื่อ พ.ศ. 349 (194 ปีก่อนคริสตกาล) เกิดการกบฏขึ้นทางตอนเหนือ โดยชาวลูซิเทเนียที่ในที่สุดก็สามารถตรึงกำลังพวกโรมันเอาไว้ได้ ได้ทำการยึดอาณาเขตคืนมาจากชาวโรมัน และปล้นสดมภ์เมืองโคนิสทอร์จิส (Conistorgis) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเผ่าโคนิไอ ด้วยเหตุผลที่ว่าชาวโคนิไอนี้ผูกมิตรชิดเชื้อกับโรม ผู้นำของชาวลูซิเทเนีย วิเรียธิอุส (Viriathus) เป็นผู้นำการขับไล่ทหารโรมันออกจากคาบสมุทรไอบีเรีย ทำให้โรมต้องส่งกองทหารโรมันมาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ต่อมาทางโรมจึงทำการประนีประนอมโดยการเปลี่ยนสัญชาติชาวลูซิเทเนียให้เป็นชาวโรมัน ด้วยการมอบสิทธิ์ละติน (Latinius หรือ Latin Right) ให้กับชาวลูซิเทเนียในปี พ.ศ. 616 (ค.ศ. 73)
ยุคอาณาจักรในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ชาวเผ่าอนารยชนเยอรมัน (ส่วนใหญ่คือเผ่าซูวี (Suevi) และชาววิสิกอธ) ได้ทำการรุกรานคาบสมุทรไอบีเรีย, ก่อตั้งอาณาจักรของตนเองขึ้น และกลายเป็นชาวพื้นเมืองไอบีเรียในที่สุด มีชาวเผ่ากลุ่มน้อยเช่นชาวแวนดัล (Vandals) เผ่าซิลิงไก (Silingi) และเผ่าฮาสดิงไก (Hasdingi) รวมถึงชาวซาร์มาเทีย (หรือ ชาวอลัน - Alans) อาศัยอยู่ด้วย แต่ต่อมาพวกเขาโดนเนรเทศหรือจำกัดถิ่นที่อยู่โดยชาววิสิกอธ (Visigoths)
การรุกรานของชาวมุสลิมเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 1254 (ค.ศ. 711) บรรดาขุนนางที่ถูกขับไล่ออกมาอพยพไปยังทางตอนเหนือที่ยังไม่ได้ทำการยึดครอง ณ ที่ราบสูงแอสทูเรีย (Asturia) จากจุดนั้นพวกเขามีจุดมุ่งหมายในการยึดดินแดนคืนมาจากชาวมัวร์ (Moors) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเบอร์เบอร์ และชาวอาหรับจำนวนหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักในการยึดคืนมาเนื่องมาจากการยึดดินแดนคืนครั้งใหญ่ของชาวคริสต์หรือ Reconquista ในปี พ.ศ. 1411 (ค.ศ. 868) เคานต์วีมารา เปเรช (Count Vímara Peres) เป็นผู้ยึดดินแดนระหว่างแม่น้ำมีโนและดูโรคืนมาได้ ดินแดนดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันได้นามว่า Portucale (ซึ่งก็คือโปรตุเกสในปัจจุบัน)
ยุคเสรีนิยมส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ยุคสาธารณรัฐดูบทความหลักที่: การปฏิวัติ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1910, สาธารณรัฐโปรตุเกสที่หนึ่ง และ สาธารณรัฐโปรตุเกสที่สองส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้