England
ประเทศอังกฤษContext of ประเทศอังกฤษ
อังกฤษ (อังกฤษ: England, ออกเสียง: /ˈɪŋ(g)lənd/) เป็นประเทศอันเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร มีพรมแดนทางบกติดต่อกับสกอตแลนด์ทางเหนือ และเวลส์ทางตะวันตก ทะเลไอร์แลนด์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทะเลเคลติกทางตะวันตกเฉียงใต้ ทะเลเหนือทางตะวันออก และช่องแคบอังกฤษซึ่งคั่นระหว่างอังกฤษกับยุโรปแผ่นดินใหญ่ พื้นที่ประเทศอังกฤษส่วนใหญ่ตั้งอยู่ทางตอนกลางและตอนใต้ของเกาะบริเตนใหญ่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ประเทศอังกฤษยังรวมถึงเกาะที่เล็กกว่าอีกกว่า 100 เกาะ เช่น หมู่เกาะซิลลีและเกาะไวต์
ภูมิประเทศของอังกฤษส่วนมากประกอบด้วยเขาเตี้ย ๆ และที่ราบ โดยเฉพาะทางตอนกลางและตอนใต้ของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ทางเหนือและทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นที่สูง วินเชสเตอร์เป็นเมืองหลวงเก่าของอังกฤษกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นลอนดอนใน พ.ศ. 1609 ปัจจุบัน ลอนดอนเป็นเขตมหานครใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร และพื้นที่เมืองใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรปเมื่อวัดด้วยเกณฑ์ส่วนใหญ่ ประชากรอังกฤษมีอยู่ราว 56 ล้านคน คิดเป็น 84% ของประชากรสหราชอาณาจักร และส่ว...อ่านต่อ
อังกฤษ (อังกฤษ: England, ออกเสียง: /ˈɪŋ(g)lənd/) เป็นประเทศอันเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร มีพรมแดนทางบกติดต่อกับสกอตแลนด์ทางเหนือ และเวลส์ทางตะวันตก ทะเลไอร์แลนด์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทะเลเคลติกทางตะวันตกเฉียงใต้ ทะเลเหนือทางตะวันออก และช่องแคบอังกฤษซึ่งคั่นระหว่างอังกฤษกับยุโรปแผ่นดินใหญ่ พื้นที่ประเทศอังกฤษส่วนใหญ่ตั้งอยู่ทางตอนกลางและตอนใต้ของเกาะบริเตนใหญ่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ประเทศอังกฤษยังรวมถึงเกาะที่เล็กกว่าอีกกว่า 100 เกาะ เช่น หมู่เกาะซิลลีและเกาะไวต์
ภูมิประเทศของอังกฤษส่วนมากประกอบด้วยเขาเตี้ย ๆ และที่ราบ โดยเฉพาะทางตอนกลางและตอนใต้ของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ทางเหนือและทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นที่สูง วินเชสเตอร์เป็นเมืองหลวงเก่าของอังกฤษกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นลอนดอนใน พ.ศ. 1609 ปัจจุบัน ลอนดอนเป็นเขตมหานครใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร และพื้นที่เมืองใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรปเมื่อวัดด้วยเกณฑ์ส่วนใหญ่ ประชากรอังกฤษมีอยู่ราว 56 ล้านคน คิดเป็น 84% ของประชากรสหราชอาณาจักร และส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ภาคตะวันออกเฉียงใต้และเขตเมืองขยายในภาคมิดแลนด์ส ภาคตะวันตกเฉียงเหนือและยอร์กเชอร์ ซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19
ราชอาณาจักรอังกฤษ ซึ่งหลังจาก พ.ศ. 1827 รวมเวลส์เข้าไปด้วยนั้น เป็นรัฐอธิปไตยกระทั่งวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2250 เมื่อพระราชบัญญัติสหภาพมีผลใช้บังคับตามเงื่อนไขซึ่งตกลงกันในสนธิสัญญาสหภาพเมื่อปีก่อน ส่งผลให้มีการรวมทางการเมืองกับราชอาณาจักรสกอตแลนด์ และสถาปนาราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ พ.ศ. 2344 บริเตนใหญ่รวมกับราชอาณาจักรไอร์แลนด์ ผ่านพระราชบัญญัติสหภาพอีกฉบับหนึ่งกลายเป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ พ.ศ. 2465 รัฐอิสระไอร์แลนด์ได้รับการสถาปนาเป็นอาณาจักรแยกต่างหาก แต่ Royal and Parliamentary Titles Act 1927 รวมไอร์แลนด์เหนือเข้ากับสหราชอาณาจักรอีกครั้ง และสถาปนาสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือปัจจุบันอย่างเป็นทางการ
More about ประเทศอังกฤษ
- Native name England
- Calling code +44
- Population 46571900
- Area 130278
มนุษย์โบราณได้เข้ามาตั้งรกรากบริเวณแคว้นอังกฤษหลายพันปีก่อนคริสตกาล จากนั้นถัดมาเป็นจูเลียสซีซาร์ ชาวโรมันยึดครองอังกฤษประมาณ ค. ศ. 43 และปกครองอังกฤษไปจนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน[1]
Angles, Saxons และ Jutes เริ่มอพยพเข้ามาและสร้างอาณาจักร Anglo Saxon Kingdom ขึ้นในศตวรรษที่ 7 หลังจากการยึดครอง ไวกิงชาวเดนมาร์คเริ่มมาอังกฤษและเข้าควบคุมทางการทหาร ในศตรรรษที่ 11 วิลเฮล์มผู้พิชิตยึดพื้นที่ได้จนถึงชายฝั่งทางตอนใต้ของอังกฤษและพิชิตแผ่นดินพร้อมกับกองทัพเร่ร่อน
สงคราม 'ร้อยปี' กับฝรั่งเศสเริ่มขึ้นในศตวรรษต่อมา ความขัดแย้งระหว่างรัชทายาทกับราชบัลลังก์ และราชวงศ์กับคริสตจักรก็เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ในศตวรรษที่ 16 เรื่องการสมรสของ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 นำไปสู่การยุติความสัมพันธ์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิก รัฐสภาเสนอชื่อเฮนรี่ที่ 8 ขึ้นเป็นผู้นำของนิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์
อังกฤษยังมีอาณานิคมนับเป็นของตนเองอีกนับไม่ถ้วน อาณานิคมเหล่านี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งอเมริกา บริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) รวมทั้งในแคนาดาและออสเตรเลีย อังกฤษพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 เมืองอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใน Midlands และเป็นส่วนในการช่วยผลักดันการค้าระหว่างประเทศ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งประเทศอังกฤษมีมหาอำนาจมากที่สุดในโลกในช่วงเวลาเวลา ค. ศ. 1837 ถึง 1901 อังกฤษเป็นหนึ่งในพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สองและมีบทบาทสำคัญในการเอาชนะ นาซีเยอรมนี (Nazi Germany)[2][3]
...อ่านต่อมนุษย์โบราณได้เข้ามาตั้งรกรากบริเวณแคว้นอังกฤษหลายพันปีก่อนคริสตกาล จากนั้นถัดมาเป็นจูเลียสซีซาร์ ชาวโรมันยึดครองอังกฤษประมาณ ค. ศ. 43 และปกครองอังกฤษไปจนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน[1]
Angles, Saxons และ Jutes เริ่มอพยพเข้ามาและสร้างอาณาจักร Anglo Saxon Kingdom ขึ้นในศตวรรษที่ 7 หลังจากการยึดครอง ไวกิงชาวเดนมาร์คเริ่มมาอังกฤษและเข้าควบคุมทางการทหาร ในศตรรรษที่ 11 วิลเฮล์มผู้พิชิตยึดพื้นที่ได้จนถึงชายฝั่งทางตอนใต้ของอังกฤษและพิชิตแผ่นดินพร้อมกับกองทัพเร่ร่อน
สงคราม 'ร้อยปี' กับฝรั่งเศสเริ่มขึ้นในศตวรรษต่อมา ความขัดแย้งระหว่างรัชทายาทกับราชบัลลังก์ และราชวงศ์กับคริสตจักรก็เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ในศตวรรษที่ 16 เรื่องการสมรสของ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 นำไปสู่การยุติความสัมพันธ์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิก รัฐสภาเสนอชื่อเฮนรี่ที่ 8 ขึ้นเป็นผู้นำของนิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์
อังกฤษยังมีอาณานิคมนับเป็นของตนเองอีกนับไม่ถ้วน อาณานิคมเหล่านี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งอเมริกา บริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) รวมทั้งในแคนาดาและออสเตรเลีย อังกฤษพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 เมืองอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใน Midlands และเป็นส่วนในการช่วยผลักดันการค้าระหว่างประเทศ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งประเทศอังกฤษมีมหาอำนาจมากที่สุดในโลกในช่วงเวลาเวลา ค. ศ. 1837 ถึง 1901 อังกฤษเป็นหนึ่งในพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สองและมีบทบาทสำคัญในการเอาชนะ นาซีเยอรมนี (Nazi Germany)[2][3]
↑ "England | History, Map, Flag, Population, Cities, & Facts". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ). ↑ "World War II - The Battle of Britain". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ). ↑ "What Life Was Like In Britain During The Second World War". Imperial War Museums (ภาษาอังกฤษ).