Context of ประเทศเวลส์

เวลส์ (อังกฤษ: Wales; เวลส์: Cymru, ออกเสียง [ˈkəmrɨ] ( ฟังเสียง) คัมรึ) เป็น 1 ใน 4 ประเทศองค์ประกอบของสหราชอาณาจักร (ได้แก่อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) มีพื้นที่ของประเทศอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะบริเตนใหญ่ ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก

เวลส์มีอาณาเขตทางทิศตะวันออกติดกับประเทศอังกฤษ ทิศเหนือและทิศตะวันตกอยู่ติดกับทะเลไอริช ส่วนทางทิศใต้ติดกับช่องแคบบริสตอล จากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี ค.ศ. 2011 ประเทศเวลส์มีประชากร 3,063,456 คน และมีพื้นที่ทั้งหมด 20,799 ตารางกิโลเมตร มีแนวชายฝั่งยาว 2,700 กิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา โดยมีภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศคือภูเขาสโนว์ดอน (อังกฤษ: Snowdon; Yr Wyddfa) ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากถึง 1,085 เมตร นับเป็นหนึ่งในภูเขาที่สูงที่สุดในหมู่เกาะบริติชไอลส์ บริเวณพื้นที่ราบและส่วนที่ประชากรอาศัยหนาแน่นอยู่ทางตอนใต้ มีสภาพภูมิอากาศแบบอบอุ...อ่านต่อ

เวลส์ (อังกฤษ: Wales; เวลส์: Cymru, ออกเสียง [ˈkəmrɨ] ( ฟังเสียง) คัมรึ) เป็น 1 ใน 4 ประเทศองค์ประกอบของสหราชอาณาจักร (ได้แก่อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) มีพื้นที่ของประเทศอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะบริเตนใหญ่ ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก

เวลส์มีอาณาเขตทางทิศตะวันออกติดกับประเทศอังกฤษ ทิศเหนือและทิศตะวันตกอยู่ติดกับทะเลไอริช ส่วนทางทิศใต้ติดกับช่องแคบบริสตอล จากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี ค.ศ. 2011 ประเทศเวลส์มีประชากร 3,063,456 คน และมีพื้นที่ทั้งหมด 20,799 ตารางกิโลเมตร มีแนวชายฝั่งยาว 2,700 กิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา โดยมีภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศคือภูเขาสโนว์ดอน (อังกฤษ: Snowdon; Yr Wyddfa) ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากถึง 1,085 เมตร นับเป็นหนึ่งในภูเขาที่สูงที่สุดในหมู่เกาะบริติชไอลส์ บริเวณพื้นที่ราบและส่วนที่ประชากรอาศัยหนาแน่นอยู่ทางตอนใต้ มีสภาพภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นสมุทร

ความเป็นชนชาติของเวลส์เริ่มจากชาวบริตันเคลต์ (Celtic Briton) โดยหลังจากจักรวรรดิโรมันได้ถอนตัวออกไปจากการยึดครองเกาะบริเตนในราวศตวรรษที่ 5 ทำให้เวลส์กลายมาเป็นหนึ่งใน 6 ของกลุ่มชาติเคลติกสมัยใหม่ (อังกฤษ: Celtic Nations) ได้แก่บริทานี, คอร์นวอลล์, ไอล์ออฟแมน, ไอร์แลนด์, เวลส์ และสก๊อตแลนด์

ในเดือนธันวาคม ค.ศ.1282 เวลส์และอังกฤษ ได้สู้รบกันในยุทธการที่โอเรวินบริดจ์ (Battle of Orewin Bridge) โดยเจ้าชายเลเวลิน อัพ กริฟฟิธ (เวลส์: Llywelyn ap Gruffudd) ซึ่งเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ ได้ถูกสังหารโดยสตีเฟน เดอ แฟรงตัน ทหารม้าของฝ่ายอังกฤษ ทำให้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษสามารถพิชิตเวลส์ได้อย่างราบคาบ

ในตอนต้นศตวรรษที่ 15 เวลส์กลับมามีอิสรภาพได้ชั่วขณะภายใต้การนำของโอเวน กลินดอร์ (Owain Glyndwr) แต่ก็ตกกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษอีก และถูกผนวกเข้ามาเป็นแผ่นดินเดียว และภายใต้ระบบกฎหมายเดียวกับอังกฤษ โดยการออกพระราชบัญญัติ Laws in Wales Acts 1535 and 1542. การเมืองที่เป็นแบบฉบับเฉพาะของเวลส์เพิ่งถูกพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 19 อุดมการณ์เสรีนิยมแบบเวลส์ซึ่งมีอิทธิพลในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ถูกแทนที่ด้วยการขยายตัวของอุดมการณ์สังคมนิยม และพรรคแรงงาน ความรู้สึกทางชาตินิยมของเวลส์ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมาในศตวรรษนี้เอง. ไพลด์คัมรี (เวลส์: Plaid Cymru) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1925 และมีการจัดตั้ง "สมาคมภาษาเวลส์" ขึ้นต่อมาในปี ค.ศ. 1962 เพื่อฟื้นฟูภาษาถิ่นที่กำลังจะสูญหายไปของเวลส์. สมัชชาแห่งชาติเวลส์ (National Assembly for Walses) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1998 โดย Government of Wales Act 1998 โดยมีความรับผิดชอบในการสร้างและดำเนินนโยบายที่ได้รับการถ่ายโอนอำนาจมาจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร

คำว่า ราชรัฐเวลส์ ยังคงเป็นที่นิยมใช้ ถึงแม้ว่าเจ้าชายแห่งเวลส์จะไม่มีบทบาททางการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ. 1825 (ค.ศ. 1282) โดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษทรงเข้ายึดครอง ต่อมาเมืองหลวงของเวลส์ถูกย้ายจากคายร์นาร์วอน (ซึ่งเป็นเมืองของเจ้าชายเวลส์) มาที่คาร์ดิฟฟ์ในปี พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955)


Where can you sleep near ประเทศเวลส์ ?

Booking.com
487.355 visits in total, 9.187 Points of interest, 404 Destinations, 40 visits today.