ดับลิน
Context of ดับลิน
ดับลิน (อังกฤษ: Dublin; ไอริช: Baile Átha Cliath) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใกล้อ่าวบนชายฝั่งทางภาคตะวันออกของประเทศ บริเวณปากแม่น้ำลิฟเฟย์ในจังหวัดเลนสเตอร์ ดับลินมีอาณาเขตติดต่อกับภูเขาดับลินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาวิกโลว์ทางทิศใต้ ประชากรในเขตเมืองมีทั้งหมด 1,173,179 คน ในขณะที่ประชากรในเขตดับลิน (เทศมณฑลดับลินเดิม) มีทั้งสิ้น 1,347,359 คนใน ค.ศ. 2016 ส่วนประชากรรวมในเขตปริมณฑลทั้งหมดคือ 1,904,806 คนจากการสำมะโนครัวในปี 2016 เช่นกัน
มีการถกเถียงเรื่องการก่อตั้งดับลิน ซึ่งโดยส่วนใหญ่สันนิษฐานว่า ดับลินก่อตั้งโดยกลุ่มแกเอลส์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ต่อมาพวกไวกิงได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานและขยายอาณาเขตออกไปจนกลายเป็นอาณาจักรดับลิน ต่อมาดับลินได้กลายเป็นถิ่นฐานหลักของไอร์แลนด์อันเนื่องจากการรุกรานของพวกนอร์แมน ตัวนครได้ขยายตัวอย่างเร็วในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 และมีช่วงสั้น ๆ ที่ดับลินได้กลายเป็นนครที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของจักรวรรดิบริติช ก่อนที่จะมีพระราชบัญญัติสหภาพใน ค.ศ. 1800 หลังจากการแบ่งไอร์แล...อ่านต่อ
ดับลิน (อังกฤษ: Dublin; ไอริช: Baile Átha Cliath) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใกล้อ่าวบนชายฝั่งทางภาคตะวันออกของประเทศ บริเวณปากแม่น้ำลิฟเฟย์ในจังหวัดเลนสเตอร์ ดับลินมีอาณาเขตติดต่อกับภูเขาดับลินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาวิกโลว์ทางทิศใต้ ประชากรในเขตเมืองมีทั้งหมด 1,173,179 คน ในขณะที่ประชากรในเขตดับลิน (เทศมณฑลดับลินเดิม) มีทั้งสิ้น 1,347,359 คนใน ค.ศ. 2016 ส่วนประชากรรวมในเขตปริมณฑลทั้งหมดคือ 1,904,806 คนจากการสำมะโนครัวในปี 2016 เช่นกัน
มีการถกเถียงเรื่องการก่อตั้งดับลิน ซึ่งโดยส่วนใหญ่สันนิษฐานว่า ดับลินก่อตั้งโดยกลุ่มแกเอลส์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ต่อมาพวกไวกิงได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานและขยายอาณาเขตออกไปจนกลายเป็นอาณาจักรดับลิน ต่อมาดับลินได้กลายเป็นถิ่นฐานหลักของไอร์แลนด์อันเนื่องจากการรุกรานของพวกนอร์แมน ตัวนครได้ขยายตัวอย่างเร็วในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 และมีช่วงสั้น ๆ ที่ดับลินได้กลายเป็นนครที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของจักรวรรดิบริติช ก่อนที่จะมีพระราชบัญญัติสหภาพใน ค.ศ. 1800 หลังจากการแบ่งไอร์แลนด์ในใน ค.ศ. 1922 ดับลินกลายเป็นเมืองหลวงของรัฐอิสระไอริช ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไอร์แลนด์
ดับลินเป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม การปกครอง และเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างช้านาน โดยใน ค.ศ. 2018 ดับลินได้รับการจัดอันดับให้ติด 30 อันดับแรกของ "เมืองสำคัญของโลก" ประเภทแอลฟา โดยโครงข่ายวิจัยโลกาภิวัฒน์และนครโลก